the-club-thailand
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search

Latest topics
» ข้อมูลVongola Family ขอรับ
อย่าตัดขอบแซนด์วิช !! EmptyFri Jun 08, 2012 9:17 pm by may_cassiopeia

» รีบอร์น1-303 ภาคไทย ซับไทย แบบโหลดนะคับ
อย่าตัดขอบแซนด์วิช !! EmptyWed May 09, 2012 9:52 pm by beamza2814

» รับสมัคร
อย่าตัดขอบแซนด์วิช !! EmptyThu May 05, 2011 9:07 pm by ๛•“…H!฿a|2!Ky๏ya…”•๛

» สมาชิกรายงานตัวด่วนค่ะ(ครั้งที่1)
อย่าตัดขอบแซนด์วิช !! EmptyThu May 05, 2011 8:59 pm by ๛•“…H!฿a|2!Ky๏ya…”•๛

» ใครอยากเป็นประธานชมรมอะไรเข้ามา(ไม่งั้นอด)
อย่าตัดขอบแซนด์วิช !! EmptyThu May 05, 2011 8:57 pm by ๛•“…H!฿a|2!Ky๏ya…”•๛

» มาแนะนำตัวกันน้า
อย่าตัดขอบแซนด์วิช !! EmptyThu May 05, 2011 8:56 pm by ๛•“…H!฿a|2!Ky๏ya…”•๛

» ^^ ถึงทุกคน
อย่าตัดขอบแซนด์วิช !! EmptyTue Apr 27, 2010 6:20 pm by Admin

» เรื่องสั้นคลายเครียด
อย่าตัดขอบแซนด์วิช !! EmptySat Mar 20, 2010 7:35 pm by rustblaster

» หวัดดีค่ะ
อย่าตัดขอบแซนด์วิช !! EmptyThu Mar 18, 2010 2:36 am by sunday

Affiliates
free forum


อย่าตัดขอบแซนด์วิช !!

Go down

อย่าตัดขอบแซนด์วิช !! Empty อย่าตัดขอบแซนด์วิช !!

ตั้งหัวข้อ by sunday Wed Feb 10, 2010 7:28 pm

เวลาทานขนมปัง คุณเป็นนักทานประเภท ชอบตัดขอบขนมปังทิ้งก่อนทาเนยหรือทาแยมรึเปล่า??

หลายท่านที่เป็นเช่นนี้ หากไปถามว่าทำไมต้องตัดหรือดึงขอบออกก่อนด้วยก็มักจะได้คำตอบว่า ขอบขนมปังหรือบริเวณที่ถูกอบจนเป็นสีน้ำตาลเข้มนั้นเป็นส่วนที่ไม่มีรสชาติ ฝืดคอ เหนียว เคี้ยวยากและอีกสารพัดเหตุผล แฮ่ ๆ

.. แต่ทราบมั้ยว่าขอบขนมปังที่เราทิ้งไปหรือเก็บไว้ไปโยนให้ปลาในเขาดินกินนั้น เป็นส่วนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มากกว่าที่เราคาดคิด ดร.โทมัส ฮอฟมานน์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมุนสเตอร์ประเทศเยอรมนี พบว่าขอบขนมปังที่บางคนเมินนั้น เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระอันอุดมสมบูรณ์มากกว่าส่วนอื่นๆ ของขนมปัง จริง ๆ แล้วก่อนหน้านี้ก็เคยมี

งานวิจัยที่สรุปผลออกมาว่าขนมปังเป็นแหล่งของส่วนประกอบบางตัวที่มีคุณสมบัติต้านมะเร็ง แต่งานชิ้นเก่าๆ จะให้เครดิตไปที่กากใยอาหารหรือไฟเบอร์ซะมากกว่า ส่วนงานวิจัยของ ดร.โทมัส นี้ได้ระบุถึงสารต้านมะเร็งตัวใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครคาดถึงมาก่อน

หัวหน้าทีมวิจัยได้ตรวจสอบขอบขนมปัง เนื้อขนมปัง และแป้งธรรมดาพบว่าขอบขนมปังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า โพรนิลไลซีน (pronyl-lysine) มากกว่าในส่วนเป็นขนมปังสีขาวถึง 8 เท่า ส่วนแป้งธรรมดานั้นกลับไม่มีเอาเสียเลย หมายความว่าสารต้านอนุมูลอิสระที่ว่านี้ จะเกิดขึ้นต่อเมื่อขนมปังได้ผ่านกระบวนการอบมาเรียบร้อยแล้วเท่านั้น สารโพรนิลไลซีนนี้เกิดขึ้นมา
จากปฏิกิริยาของกรดอะมิโนแอล-ไลซีน แป้งและน้ำตาลในขั้นตอนการอบปฏิกิริยานี้เรียกว่า ปฏิกิริยามิลลาร์ด (Maliiard reaction) ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดสีน้ำตาลบนผิวหน้าของขนมปังที่ผ่านการอบแล้ว นอกจากนั้นกระบวนการนี้ยังเป็นตัวสร้างสารให้กลิ่นและรสชาติให้กับขนมปัง รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆ อีกด้วย กระบวนการนี้สามารถเกิดได้ ทั้งในขนมปังที่ใช้ยีสต์และไม่ใช้ยีสต์ งานวิจัยยังบอกด้วยว่าขนมปังที่มีสีน้ำตาลเข้มเช่น ขนมปังโฮลวีท จะมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าขนมปังสีขาวนอกจากนี้ สารต้านอนุมูลอิสระจะยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น หากก้อนขนมปังที่เข้าเตาอบมีขนาดเล็ก เพราะชิ้นขนมปังเล็กๆ นั้นจะมีพื้นผิวที่มากขึ้นใน
การเกิดปฏิกิริยาในกระบวนการนี้ หากเทียบกับขนมปังที่เป็นก้อนใหญ่ๆหรือเป็นปอนด์ แต่ ดร.โทมัสเตือนเอาไว้ว่า ถ้าหากพยายามอบขนมปังให้เป็นสีน้ำตาลจนเกรียมมากไป สารเคมีที่มีประโยชน์ก็จะอันตรธานหายไปได้ง่ายๆเหมือนกัน
sunday
sunday
มาเฟีย Vongola

จำนวนข้อความ : 287
Reputation : 0
Join date : 31/12/2009
ที่อยู่ : บ้านซิก(ฮ่าๆๆๆ)

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ